
วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6483 ข่าวสดรายวัน
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแนวคิดใหม่ เปิดอุทยาน"พระพิฆเนศองค์ใหญ่"
สดจากหน้าพระ
อนุชา ทรงศิริ
ในวันพุธที่ 3 ก.ย. 2551 เวลา 09.00 น. จะมีการ "เปิดอุทยานพระพิฆเนศ" ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก อย่างเป็นทางการ โดยวันดังกล่าวถือว่าเป็น "วันประสูติพระพิฆเนศ" หรือ "พิธีคเณศจตุรถี" ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 10 หรือเดือนภัทรา ถือเป็นวันสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้เคารพนับถือพระพิฆเนศ จะต้องจัดพิธีบูชาให้พิเศษกว่าวันอื่นๆ โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ หรือฮินดู ในประเทศอินเดียจะจัดพิธีที่ยิ่งใหญ่ตลอดทั้งเดือน
"อุทยานพระพิฆเนศ" เกิดจากแนวคิดของ "พระราชพิพัฒน์โกศล" หรือ "หลวงพ่อเณร" เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร บางขุนนนท์ กรุงเทพฯ โดยท่านได้รับการถวายที่ดินจำนวน 16 ไร่ จากลูกศิษย์หลวงพ่อภู อดีตเจ้าอาวาสวัดเวฬุราชิน ย่านบางยี่เรือ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ดินล้อมรอบด้วยคลองธรรมชาติ เดิมที่นั้นท่านตั้งใจจะสร้างเป็นบ้านพักคนชรา แต่ต้องพับโครง การไปจนที่ดินถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งท่านเกิดแนวความคิดสร้างศูนย์ปฏิ บัติธรรม พร้อมกับการสร้างพระพิฆเนศองค์ใหญ่ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 15 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
การสร้างอุทยานพระพิฆเนศ มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมที่แตกต่างจากศูนย์ปฏิบัติธรรมทั่วไป ดังนั้น สิ่งปลูกสร้างภายในอุทยานจึงมีการวางแบบที่เป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน ไม่ว่าศาลาทรงไทย (ที่พักสงฆ์) มีอยู่ 3 หลัง ที่พักผู้ปฏิบัติธรรมทรงไทยประยุกต์มีประมาณ 10 หลัง สำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมเป็นครอบครัว โดยได้จัดเตรียมของใช้ให้สะดวกสบายเช่นเดียวกับรีสอร์ต เช่น ติดเครื่องปรับอากาศ มีตู้เย็น ทีวี เครื่องทำน้ำร้อน กาต้มน้ำ และห้องน้ำในตัว
นอกจากนี้ ยังมีศาลาที่พักรวมสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมเป็นหมู่คณะครั้งละประมาณ 100 คน ศาลาฝึกอบรมผู้ปฏิบัติธรรม มีสระว่ายน้ำ ซึ่งอาจจะเรียกว่า "ศูนย์ปฏิบัติธรรมสไตล์รีสอร์ต" ก็ไม่ผิดนัก
สำหรับแนวความคิดในการจัดสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมสไตล์รีสอร์ตนั้น หลวงพ่อเณร บอกว่า เคยได้ไปเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ญาติโยมสร้างขึ้นหลายแห่ง รวมทั้งวัดป่าในต่างจังหวัดมีการจัดสร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว รวมทั้งสถานที่พักสะอาดปลอดภัย ญาติโยมนิยมไปปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมาก
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเข้ามาปฏิบัติธรรมนั้น หลวงพ่อเณรบอกว่า จะมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะก็จะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ขึ้นอยู่กับจิตศรัทธา ซึ่งเชื่อว่าศรัทธาของญาติโยม ทั้งที่เดินทางมากราบไหว้ขอพรพระพิฆเนศองค์ใหญ่ รวมทั้งมาพักและฝึกปฏิบัติธรรม น่าจะเพียงพอสำหรับบำรุงดูแลรักษาอุทยานแห่งนี้ หากมีเหลือมากพอ จะนำไปมอบเป็นทุนการศึกษาในพื้นที่ใกล้เคียง รวมสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับผู้คนในท้องถิ่นด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะเดินทางมาร่วมพิธีเปิดอุทยานพระพิฆเนศอย่างเป็นทางการนั้น หากเดินทางไปเที่ยว น้ำตกสาริกา ตามถนนสายนครนายก-น้ำตกสาริกา เลยตัวจังหวัดมาประมาณ 5 ก.ม. โดยอยู่ถัดจากวัดพราหมณี หรือ "วัดหลวงพ่อปากแดง" ประมาณ 1 ก.ม. สอบถามเพิ่มเติม โทร.08-4999-9285
ทั้งนี้ ผู้ที่มาร่วมงานทุกท่าน หลังเสร็จพิธีแล้วจะได้รับมอบ "พระพิฆเนศเนื้อผงปัดทอง" เป็นที่ระลึกฟรี!